ผญาคำสอน : จะทำอะไรต้องเตรียมการให้พร้อม

ครั้นมีไหมบ่มีเข็มร้อย สิเอาหยังหยิบแส่ว
มีเข็มครั้นบ่ร้อย สิพันแส่วฮ่อมใด
[คันมีไหมบ่อมีเข็มฮ้อย สิเอาหยังหญิบแส่ว
มีเข็ม คันบ่อฮ้อย สิพันแส่วฮ่อมได]

ผญาที่ว่า ครั้นมีไหมบ่มีเข็มร้อย สิเอาหยังหยิบแส่ว (คันมีไหมบ่อมี เข็มฮ้อย สิเอาหยังหญิบแส่ว) แปลว่า เมื่อมีเส้นไหมเส้นด้ายแล้ว ถ้าไม่มีเข็ม มาเย็บมาสอย จะเอาอะไรมาใช้แทนเข็มได้

หยิบ แปลว่า เย็บ

แส่ว แปลว่า ปะ, ชุน, เย็บ

ผญาที่ว่า มีเข็มครั้นบ่ร้อย สิพันแส่วฮ่อมใด (มีเข็มคันบ่อฮ้อย สิพันแส่ว ฮ่อมได) แปลว่า มีเข็มแล้วไม่มีด้ายร้อยเข็ม จะเย็บปะชุนได้อย่างไร

ฮ่อมใด แปลว่า อย่างไร

ครั้นมีไหมบ่มีเข็มร้อย สิเอาหยังหยิบแส่ว
มีเข็มครั้นบ่ร้อย สิพันแส่วฮ่อมใด
[คันมีไหมบ่อมีเข็มฮ้อย สิเอาหยังหญิบแส่ว
มีเข็ม คันบ่อฮ้อย สิพันแส่วฮ่อมได]

เป็นคำสอนว่า จะทำการอันใดนั้นจะต้องเตรียมการวางแผนให้ดี มี เครื่องไม้เครื่องมือครบครัน จะทำให้การทำงานดำเนินไปด้วยดีจนบรรลุ ความสำเร็จ เหมือนกับการเย็บผ้าก็จะต้องมีทั้งด้ายและเข็มพร้อม จะขาดสิ่งหนึ่ง ไม่ได้ ถึงจะเย็บผ้าได้ เปรียบเหมือนกับการทำงานที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน และกันนั่นเอง

(นายนิรันดร์ บุญจิต)