เงื่อนไขคุณธรรม (ตั้งใจดี / คิดดี / ทำดี)

"...ความมุ่งมั่นของท่านทั้งนี้ แท้จริงคืออุดมคติที่ต่างคนได้วางไว้ ในชีวิต และเป็นพลังยิ่งใหญ่ที่จะส่งเสริมให้สามารถก้าวไปถึงความสำเร็จ ในกิจทุกสิ่ง เมื่อบัดนี้ทุกคนมีอุดมคติและความตั้งใจดีพร้อมแล้ว ต้อง รักษาไว้ให้หนักแน่นมั่งคงต่อไป อย่ายอมให้กาลเวลา ความเห็นแก่ตัว หรือสถานการณ์ใดๆ มาทำลายเสียได้..."

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๑๑)


"...เมื่อท่านตั้งใจดี มีแผนงานดี มีหลักวิชา มีเหตุผล มีสติรอบคอบ ในงานที่ทำแล้วจะเกิดความทราบตระหนักด้วยตนเองขึ้นว่า งานที่ทำนั้น จะได้ผลดีแน่นอน แม้อาจยังไม่ปรากฏผลในปัจจุบันทันตาเห็น ก็จะแน่ แก่ใจได้ว่าจะสำเร็จลุล่วงด้วยดีในเวลาต่อไป..."

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๑๖)


...ถ้าได้ปฏิบัติดีปฏิบัติถูกต้องและครบถ้วนทั้งทางวิชาการ และทางจิตใจแล้ว แม้ปริญญาบัตรจะสูญหายวอดวายไป หรือเสื้อครุย จะขาดยุ่ยกระจุยไป ผู้ทรงคุณวุฒิก็ยังมีคุณวุฒิ มีความดีอยู่ครบ ถึงแม้ ชีวิตร่างกายจะแตกสลายไป ความดีทั้งหลายก็จะยังคงอยู่คำจุนโลก ตลอดกาล..."

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรและอนุปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๑๘)


....ถ้าเราคิดดี ทำดี ไม่ใช่แต่ปากนะ ทำอย่างดีจริงๆ คือสร้างสม สิ่งที่ดี ด้วยการปฏิบัติในสิ่งที่เรียกว่าดี หมายความว่าไม่เบียดเบียนผู้อื่น สร้างสรรค์ทำให้มีความเจริญ ทั้งวัตถุทั้งจิตใจ แล้วไม่ต้องกลัว..."

(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๑๘)


"...ประเทศไทยนี่ ทำไมยังอยู่ได้ ก็เพราะพวกเราทุกคน ถ้าเรา สร้างความดี คือ ปฏิบัติในสิ่งที่บริสุทธิ์ใจ ที่สุจริต ที่ตั้งใจดี มันอาจมี ผิดพลาดบ้างแต่ว่าไม่ได้ตั้งใจผิดพลาด ตั้งใจทำดี ก็เป็นการสร้างกำลัง ของบ้านเมือง…"

(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๑๘)


....สมควรอย่างยิ่งที่แต่ละคนจะต้องมุ่งถึงความสำเร็จข้างหน้า และต้องมีปณิธานเที่ยงตรง ในอันที่จะนำเอาวิชาการที่ได้อุตสาหะ ศึกษาฝึกฝนมาได้ด้วยความยากลำบาก ไปปฏิบัติบำเพ็ญให้บังเกิดผล อย่างแท้จริง ซึ่งทุกคนย่อมปฏิบัติได้ไม่ยาก หากมีความตั้งใจอันมั่นคง มีความมุ่งดี มุ่งเจริญ มีสติรอบคอบ และมีใจอันบริสุทธิปราศจาก อคติและความลุ่มหลงทั้งปวง..."

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรและอนุปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล : ๒๔ กันยายน ๒๕๑๙)


"...แต่ในสิ่งที่ถือเป็นความเดือดร้อน....ในสิ่งที่ไม่ดี ต้องหาความดี อยู่ได้เสมอ ข้าพเจ้าดีใจที่ท่านต้องแออัดในที่นี้ ความจริงรู้ว่าเดือดร้อน แต่ดีใจให้รู้ว่าพวกเราใกล้ชิดกันอย่างไร ให้รู้ว่าคนทั้งหลายที่มาอยู่ในที่นี้ ก็มีอาชีพ มีวัย มีการงาน มีความคิดที่ต่างกันทั้งนั้น แต่ว่าล้วนมีความ ตั้งใจอย่างเดียว เพื่อความปึกแผ่น ถึงมาอัดแอกันด้วยความปึกแผ่น..."

(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๑๙)


"...พวกเราก็เหมือนกัน แต่ละคนมีหน้าที่ อาจจะมีส่วนในการ ทำให้ถ่วงความก้าวหน้าของกายใหญ่ คือประเทศชาติได้. อาจจะส่งเสริม กายใหญ่นี้คือประเทศชาติก็ได้. บางคนทำงานในทางสร้างสรรค์ ก็สร้างสรรค์ได้มาก. คนเดียวสร้างสรรค์ได้มาก. แต่คนเดียวถ้าทำ ในทางทำลาย คนเดียวนั้นก็อาจจะทำลายได้เหมือนกัน, แต่ว่าโดยที่ชาติ ประกอบด้วยบุคคลจำนวนมาก ก็อาจจะมองไม่ค่อยเห็น แต่ต้องขอ รับรองว่าแต่ละคนแต่ละคนที่ทำดี คือ ทำอะไรที่เรียกว่าดี ที่สร้างสรรค์ เว้นจากสิ่งที่ไม่ดี ที่ทุจริต ที่ทำลายนั้น ช่วยส่วนรวมได้เป็นอย่างมาก แม้อาจจะไม่เห็นก็ได้...."

(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๒๑)


"...ยังไงก็ขอบใจท่านทั้งหลายที่มา แล้วก็มาให้พร แล้วมาครึกครื้น กัน ขอให้มีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง อย่าเครียดเกินไป คือ ว่าเครียดแล้ว ก็สุขภาพไม่ดี ก็ให้สุขภาพดีๆ งานให้เรียบร้อย ได้สามารถที่จะปฏิบัติ ภารกิจต่างๆ โดยที่ไม่ทะเลาะกันมากเกินไป คือ สังเกตดูหมู่นี้คนหนึ่ง พูดอย่าง คนหนึ่งพูดอีกอย่าง มันทะเลาะกัน ทะเลาะกันไม่มีประโยชน์ คิดแต่ดี ๆ แล้วก็บ้านเมืองก็จะเรียบร้อย ถ้าบ้านเมืองเรียบร้อย ทุกคนก็ มีความสุข ก็ขอให้ทุกคนทำงาน ทำการ ทำอะไรมีความสำเร็จเรียบร้อย ทุกคนมีความสุข บ้านเมืองเจริญ ก็ขอให้ได้มีความสำเร็จทุกประการ"

(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕)


"...แม่ ต้องเชื่อ เราเชื่อคนเดียว เชื่อแม่คนเดียว แต่ท่านอยู่ บนสวรรค์ เดี๋ยวนี้ท่านก็อยู่นี่ ท่านก็ตักเตือนอยู่ว่า ให้คิดดี ทำดี ถูกต้อง ให้โอวาทกับตัวเองเพราะว่า ไม่มีใครให้โอวาทแล้ว เราสบายใจก็เข้าใจว่า ท่านทั้งหลายอาจจะได้ยิน ได้ยิน สมเด็จพระบรมราชชนนี ท่านให้ โอวาทลูก แล้วเราก็ให้โอวาทข้าราชการ ใครต่อใครที่อยู่ในที่นี้ ประชาชน ทั่วไปว่าทำอะไร ถ้าทำดีก็ปลาบปลื้มกัน ถ้าทำไม่ดีพิจารณาตัวเองว่า ไม่ดี เว้นไว้ ยังมีที่ควรจะเป็น..."

(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๔๖)


"...พวกนี้ก็ประชาชนเหมือนกัน บางทีเขาก็นึกว่าไม่เป็นประชาชน ถูกให้โอวาทเหมือนกัน คนเขาว่าไม่ได้ ให้โอวาทจนเสียงแหบ แล้วถ้า ไม่ฟังก็เป็นเรื่องของเขา ถ้าให้โอวาทท่านก็เดือดร้อนเอง แต่ถ้าฟังไปคิด ก็เชื่อไม่ใช่อวดว่าพูดดี พูดถูกต้องทุกอย่าง แต่พยายามจะพูดให้คนคิด คำว่าให้แต่ละคนคิดดีๆ ไม่เสียหายอะไร เพราะทำให้งานที่ท่านทำก็ เป็นประโยชน์กว้างขวางออกไปได้ ทำให้เกิดผลแก่คนอื่นมากมาย..."

(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๔๖)