สารสกัดแทนนินจากผลมะหวดเพื่อการบำบัดคุณภาพน้ำเสีย

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พีระพล พลเหี้ยมหาญ, ศิวดล แซ่เฮง

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

ระพีพร พลเหี้ยมหาญ

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูล

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2561

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

บทคัดย่อ

ในการวิจัย เรื่อง สารสกัดแทนนินจากผลมะหวดเพื่อการบำบัดคุณภาพน้ำเสียมีวัตถุประสงค์

เพื่อศึกษาตัวทำละลายที่เหมาะสมในการสกัดแทนนินจากผลมะหวด เพื่อศึกษาระยะเวลาที่เหมาะสมในการสกัดแทนนินจากผลมะหวด และ เพื่อศึกษาผลของสารสกัดแทนนินจากผลมะหวดต่อการบำบัดคุณภาพน้ำเสียทางกายภาพและทางเคมี ผลมะหวดที่ใช้ คือ ส่วนของเนื้อผลไม่รวมเมล็ดตากแดดให้แห้งและบดให้ละเอียด

สารละลายที่ใช้ในการสกัด คือ น้ำกลั่น อะซิโตน และเอทิลแอลกอฮอล์ ดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำ ที่เลือกใช้ทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดแทนนินในการบำบัดคุณภาพน้ำเสีย คือ (1) ทางกายภาพ คือ สี (color) กลิ่น อุณหภูมิ (temperature) ค่าความขุ่น (turbidity) และค่าการนำไฟฟ้า (electrical conductivity) (2) ทางเคมี คือ ค่าความเป็นกรดเป็นเบส (พีเอช) ค่าปริมาณก๊าซออกซิเจนละลายในน้ำ (Dissolved Oxygen: DO) และ ค่าความต้องการปริมาณก๊าซออกซิเจนทางชีวภาพ (Biochemical or Biological Oxygen: BOD)

สถานที่ในการศึกษาวิจัย คือ ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์โรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูล และศูนย์เครื่องมือกลางมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม มีขั้นตอนการทดลองคือ 1. ศึกษาสารสกัด และระยะเวลาที่เหมาะสมและดีที่สุด ในการสกัดสารแทนนินจากผลมะหวดโดยใช้สารสกัดเพียงชนิดเดียว 2. การวิเคราะห์หาปริมาณ Total Phenolic Compound ด้วยเครื่อง UV-vis-spectrophotometer โดยวิธี Folin & Ciocalteaus reagent ที่ความยาวคลื่น 735 นาโนเมตร 3. ทดสอบประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียด้วยสารสกัดแทนนินจากผลมะหวด โดยการตรวจวัดคุณภาพน้ำทางกายภาพและทางเคมี เปรียบเทียบก่อน / หลัง การบำบัดด้วยสารสกัดแทนนินจากผลมะหวด ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันทำการตรวจวิเคราะห์ตามวิธีการ และขั้นตอนที่เตรียมไว้ และนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพของสารสกัดแทนนิน ในการบำบัดคุณภาพน้ำทางกายภาพ และทางเคมี โดยเน้นการวิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพการบำบัด (ร้อยละ) ของค่าความขุ่น และค่าบีโอดีในน้ำเสีย ซึ่งคำนวณได้จากค่าความขุ่น และค่าบีโอดีในน้ำเสียก่อนการบำบัด เปรียบเทียบกับค่าความขุ่น และค่าบีโอดีในน้ำเสียภายหลังจากการบำบัดด้วยสารสกัดแทนนิน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ

นำข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมมาวิเคราะห์ค่าความแปรปรวน และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยด้วยวิธี Least Significant Difference (LSD) แบบ Factorial in CRD จากโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ IRRISTAT 4.3

โดยใช้หลักในการประเมินที่ระดับความเชื่อมั่น 95%