การศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมในการขึ้นรูปแผ่นฟิล์มที่สามารถสังเคราะห์แสงได้โดยcyanobacteria ชนิด Oscillatoria sp.

ชื่อนักเรียนผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พรทิพย์ ลิ้มยิ้ม, พรปวีณ์ กษิตินทร์

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์

ฐิตารีย์ ทองเทียนชัย, ศาสตรา พรมอารักษ์

โรงเรียนที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เพชรบุรี

ปีที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

พ.ศ. 2562

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

เนื่องจากในปัจจุบันโลกมีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มมากขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต ทางคณะผู้จัดทำจึงคิดค้นแผ่นฟิล์มที่สามารถสังเคราะห์แสงจากไซยาโนแบคทีเรียเนื่องจากภายในเซลล์ของไซยาโนแบคทีเรียมีสารคลอโรฟิลล์เป็นองค์ประกอบ จึงสามารถสังเคราะห์แสงได้โดยในกระบวนการสังเคราะห์แสงไซยาโนแบคทีเรียจะใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการสังเคราะห์แสงและได้แก๊สออกซิเจนเป็นผลผลิต ดังนั้นการสังเคราะห์แสงของไซยาโนแบคทีเรียจึงถือเป็นการลดปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มแก๊สออกซิเจนให้แก่บรรยากาศ โดยผู้จัดทำเลือกใช้ไซยาโนแบคทีเรีย ชนิด Oscillatoria sp. เนื่องจากเป็นไซยาโนแบคทีเรียที่มีคุณสมบัติในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งสามารถพบได้ตามชายฝั่งทะเลในเขตร้อนและน้ำพุร้อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำไปต่อยอดในการผลิตเป็นต้นไม้เทียมที่สามารสังเคราะห์แสงและตั้งไว้ในสถานที่ต่างๆได้ ซึ่งนอกจากสังเคราะห์แสงได้แล้วยังลดปัญหาความสกปรกที่เกิดจากเศษใบไม้ร่วงได้อีกด้วย

ผู้จัดทำคิดค้นแผ่นฟิล์มขึ้นโดยในขั้นตอนแรกจะเพาะเลี้ยงเชื้อไซยาโนแบคทีเรียชนิด Oscillatoria sp.ในอาหารเลี้ยงเชื้อ BG-11 จากนั้นเตรียมพอลิเมอร์ 3 ชนิด ได้แก่ PVA(Polyvinyl Alcohol) PEG(Polyethylene Glycol) และ CMC (Caboxy Methyl Cellulose) จากนั้นนำพอลิเมอร์ทั้ง 3 ชนิดมาผสมกันในอัตราส่วนต่างๆ จากนั้นเทใส่โซเดียมอัลจิเนต คนให้เข้ากัน ใส่ไซยาโนแบคทีเรียที่เพาะไว้ จากนั้นเทใส่พิมพ์ และเทแคลเซียมคลอไรด์ลงไป ตั้งทิ้งไว้ 48 ชั่วโมงและนำไปอบในตู้อบ เมื่ออบแล้วนำฟิล์มไปทดสอบประสิทธิภาพโดยการวัดความยืดหยุ่น การละลายน้ำ ปริมาณแก๊สออกซิเจนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เปลี่ยนไปหลังจากใส่ลงไปในชุดทดลอง