การศึกษาสภาวะแรงตึงที่เหมาะสมที่ใช้พันขดลวดหม้อแปลงไฟฟ้า

ชื่อผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
  • บารมี ศรีธรรมานุสาร

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์
  • สุพัฒน์พงษ์ ดำรงรัตน์

  • ตวงรักษ์ นันทวิสารกุล

สถาบันการศึกษาที่กำกับดูแลโครงงานวิทยาศาสตร์

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ระดับการศึกษา

โครงงานวิทยาศาสตร์ในระดับการศึกษาปริญญาโทขึ้นไป

หมวดวิชา

โครงงานวิทยาศาสตร์ในสาขาวิชาฟิสิกส์

วันที่จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์

01 มกราคม 2541

บทคัดย่อโครงงานวิทยาศาสตร์

การพันขดลวดหม้อแปลงไฟฟ้า ต้องมีการกำหนดแรงตึงของลวดเพื่อมิให้เกิดการโป่งพองของขดลวดและสิ้นเปลืองลวดตัวนำเมื่อแรงตึงน้อยไป หรือเกิดการฉีกขาดของฉนวนและเกิดการลัดวงจรเมื่อแรงตึงมากไป ในการควบคุมแรงตึงของเส้นลวดนั้นจะใช้ไม้คอร์กหนีบบนเส้นลวด เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีเนื้ออ่อนไม่ทำลายฉนวนหุ้มเส้นลวด แต่มีข้อเสียที่เกิดการสึกหรอเร็วทำให้แรงตึงในการพันเส้นลวดเกิดการเปลี่ยนแปลงลดลงตลอดเวลา ต้องมีการปรับค่าแรงบีบบ่อยๆ และส่งผลให้ขดลวดโป่งพอง เนื่องจากแรงบีบเส้นลวดที่ใช้กันในทางปฏิบัติจะให้แรงตึงกับเส้นลวดจนมีความเค้นประมาณ 3 กิโลกรัมต่อตารางมิลลิเมตร การแก้ปัญหา คือพยายามใช้ค่าความเค้นที่สูงขึ้นในการพันขดลวด เพื่อว่าเมื่อแรงบีบลดลงจะไม่ต่ำจนให้ลวดเกิดการโป่งพองการเพิ่มความเค้นด้วยความปลอดภัยต้องทดสอบว่า ความเค้นที่เพิ่มส่งผลต่อการฉีกขาดของฉนวนที่หุ้มลวดทองแดงหรือไม่ และทำให้ฉนวนกระดาษที่คั่นระหว่างชั้นขดลวดเกิดความเสียหายหรือไม่ และเส้นลวดเกิดการยืดตัวจนมีค่าความต้านทานสูงขึ้นเกินขีดกำหนดหรือไม่ โดยได้ทดลองกับลวดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.6, 0.8 และ 1.0 มิลลิเมตร พบว่าสามารถเพิ่มความเค้นของเส้นลวดขณะพันได้ถึงราว 7 กิโลกรัมต่อตารางมิลลิเมตร โดยคุณภาพของลวดที่ได้ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน และไม่เกิดความเสียหายต่อฉนวนส่วนอื่นๆ นอกจากนี้ยังได้หาแนวทางประยุกต์ใช้อุปกรณ์เบรกนิวแมติกส์มาควบคุมแรงตึงที่ใช้ในการพันขดลวดให้มีค่าคงที่